สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com

เกร็ดสาระความเกี่ยวกับผ้าม่าน

เกร็ดสาระความเกี่ยวกับผ้าม่าน

เกร็ดสาระความรู้เกี่ยวผ้าม่าน


ผ้าม่านจับจีบพร้อมกล่องม่าน ผ้าม่านจับจีบรางโชว์
มู่ลี่ไม้ ม่านพับทูโทนกุ๊นโบว์ขอบข้าง
ผ้าม่านหลุยส์ ผ้าม่านหลุยส์สีพื้นห้องนอน


     การจัดตกแต่งบ้านนอกจากเครื่องเรือน เครื่องประดับบ้านต่างๆ ตลอดจนไม้ประดับในร่มแล้วอีกส่วนหนึ่งที่จะขาดไม่ได้คือ ผ้าม่าน ซึ่งใช้กันมาตั้งแต่อดีต ในสมัยก่อน จุดประสงค์ส่วนใหญ่จะคำนึงถึงความสวยงาม แต่ปัจจุบันผ้าม่านเข้ามามีบทบาทเกี่ยวพันกับ ความเป็นอยู่ในบ้านมากยิ่งขึ้นผ้าม่านจึงถือเป็นเครื่องตกแต่งบ้านขั้นพื้น คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจในเรื่องของสี ผิวสัมผัส และความเหมาะสมของผ้ากับสไตล์ของห้อง เฟอร์นิเจอร์ ขนาด และรูปแบบของหน้าต่าง หน้าที่ของผ้าม่านที่สำคัญ คือ ปิดบังสายตาจากคนภายนอกบ้าน และให้ความเป็นส่วนตัวแก่คนในบ้าน

ประโยชน์ของผ้าม่าน
ผ้าม่านนอกจากจะช่วยตกแต่งห้องให้ดูสวยงามแล้ว ยังมีประโยชน์ด้านอื่นดังต่อไปนี้ (สุวิทย์ , 2525)
1. ใช้ควบคุมแสงในเวลากลางวัน ทำหน้าที่เป็นเครื่องปรับแสงภายในห้อง ช่วยลดความสว่างจ้าของแสงแดดที่สาดเข้ามาในห้อง เป็นเครื่องควบคุมแสงภายในห้องให้สว่าง หรือ มืดสลัวตามต้องการ และยังช่วยป้องกันการซีดจางของเครื่องตกแต่งภายในห้องอันเกิดจากการเลียสีของแดดด้วย
2. ให้ความเป็นส่วนตัว ในกรณีที่บ้านอยู่ใกล้กันมาก เพื่อบังสายตาจากบุคคล ภายนอก นอกจากนั้น อาจใช้เป็นม่านเพื่อแบ่งกั้นห้องใหญ่เป็น 2 ห้องเล็กได้โดยไม่ต้องใช้ ฝาผนัง หรือร้านตัดเสื้อใช้ประโยชน์จากม่านกันเป็นห้องลองเสื้อผ้าของลูกค้า โดยไม่ต้องลงทุนมากนัก
3. ช่วยป้องกันฝุ่นละออง แม้ว่าจะกันไม่ได้เต็มที่ แต่ก็ช่วยได้สำหรับบ้านที่อยู่ ใกล้ถนน ม่านจะทำหน้าที่ช่วยกรองฝุ่นละอองได้พอสมควร
4. ช่วยกำหนดมุมมองสำหรับบ้านที่มีหน้าต่างมากหลายด้าน วิวภายนอกบ้านที่ น่ามองและไม่น่ามอง ม่านจะทำหน้าที่เป็นเครื่องบังสายตาได้
5. ช่วยเก็บเสียง ม่านช่วยแก้ปัญหาเบื้องต้นให้กับห้องที่ต้องการความเงียบไม่มีเสียงสะท้อน เช่น ในห้องพักผ่อน ฟังเพลง ม่านจะช่วยกันเสียงดังจากภายในและภายนอกห้องได้ดีพอสมควร ( ถ้าต้องการให้เก็บเสียงได้อย่างสมบูรณ์ ก็ต้องติดตั้งแผ่นเก็บเสียง ซึ่งยุ่งยากและสิ้นเปลืองกว่ามาก)
6. ช่วยในการตกแต่งบ้านเป็นประการสุดท้ายที่มองเห็นประโยชน์ได้อย่างชัดเจน ที่สุด บ้านที่มีแต่ผนังปูนสีเรียบๆ
จะให้ความรู้สึกแข็งกระด้าง ม่านจะช่วยทำให้ดูนุ่มนวลขึ้น

ประเภทของม่าน
ม่านอาจจำแนกเป็น 4 ประเภทใหญ่ ดังต่อไปนี้ (สุวิทย์ , 2525)
1. Glass Curtains ม่านชนิดนี้ใช้กับประตูกระจกที่มีกระจกจรดพื้น ผ้าม่านเป็นผ้าโปร่งบางแขวนห้อยจากรางม่านเหนือบานประตูยาวลงมาถึงพื้นให้ผลในด้านความนุ่มนวลทางการตกแต่งภายใน ให้ความเป็นส่วนตัว และช่วยลดแสงสว่างจ้าภายในห้องได้ ทำให้แสงภายในห้อง ดูสบายตาขึ้น ม่านแบบบี้มักใช้สีกลางๆ คือ สีขาว หรือสีขาวนวล
2. Sheer Curtains เป็นม่านผ้าโปร่งบาง และใช้กับประตูกระจกยาวตลอดพื้น เช่นเดียวกันกับ Glass Curtains มีแต่การตกแต่งที่หัวม่าน และเชิงม่านมากกว่า และอาจเพิ่มความหรูหราในการตกแต่งได้มากขึ้น
3. Ruffled Curtains คือ ม่านที่เต็มไปด้วยการจับจีบย่น มีจีบระบายหรูหราให้ความรู้สึกที่ลำลองสนุกสนาน เหมาะกับห้องนั่งเล่น ห้องเด็ก (โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง) ห้องนอน ( ควรเป็นห้องนอนของเด็กผู้หญิงเช่นกัน) ม่านแบบนี้ใช้ได้กับหน้าต่างหรือประตูเกือบทุกแบบ ผ้าที่ใช้ควรเป็นประเภทเบาบาง หรือผ้าโปร่ง การตกแต่งก็สามารถทำได้หลายรูปแบบ
4. Cafe Curtains เป็นม่านที่แบ่งออกเป็น 2 หรือ 3 ช่วง คือ ช่วงบน ช่วงกลาง และช่วงล่าง แต่ละช่วงก็มีรางเป็นของตัวเอง แยกการรูดปิด-เปิดเป็นอิสระ ม่านแบบนี้สามารถ ใช้ได้กับห้องทุกห้องภายในบ้าน โดยอาจจะใช้กับบ้านที่มีการตกแต่งอย่างภูมิฐาน หรือ ตกแต่งอย่างธรรมดาๆก็ได้ ขึ้นอยู่กับการเลือกแบบของการใช้ม่านชนิดนี้ และขึ้นอยู่กับลวดลาย และชนิดของผ้าม่านด้วย ข้อดีของม่านชนิดนี้ คือสามารถควบคุมแสงสว่างภายในห้องได้ตาม ความต้องการ เนื่องจากม่านแบบนี้แบ่งออกเป็น 2 หรือ 3 ช่วง เมื่อต้องการทั้งแสงสว่าง และความเป็นส่วนตัว ก็อาจจะปิดม่านช่วงล่าง และเปิดม่านช่วงบนทิ้งไว้ แสงสว่างจะเข้ามาทางช่วงบนของหน้าต่าง ส่วนที่ปิดไว้ก็จะบังสายตาจากคนภายนอก เมื่อต้องการแสงเต็มที่ก็รูดทั้งช่วงบน และช่วงล่าง ถ้าไม้ต้องการแสงเลยก็ปิดทั้งสองช่วง

คุณสมบัติของเส้นใยที่ใช้ทำผ้าม่าน
คุณสมบัติสำคัญของเส้นใยที่ใช้ทำผ้าม่าน ได้แก่
    ความสามารถในการต้านทานแสงแดด ความคงทนในการขัดถู
ความต้านทานไฟ ความทนทานในการใช้งาน การดูแลรักษาและการทำความสะอาด ซึ่งสามารถจำแนกคุณสมบัติของเส้นใยแต่ละชนิดที่ใช้ทำผ้าม่านได้ดังนี้ ( Saddler, 1977)
ใยแอซิเตด มีคุณสมบัติการต้านทานต่อแสงแดด การขัดถู และความทนทานในการใช้งานได้พอใช้ ไม่ต้านทานไฟ (ลุกไหม้) ไม่ทนต่อการซักแห้งและความร้อนสูง มีราคาถูก จับจีบได้สวยงาม มีลักษณะคล้ายผ้าไหม

ใยอาไคลิค คุณสมบัติการต้านทานต่อแสงแดด และการขัดถู ดี ความทนทานในการใช้งานดีมาก การต้านไฟพอใช้ ง่ายต่อการดูแลรักษาและทำความสะอาด มีลักษณะคล้ายขนสัตว์

ใยฝ้าย คุณสมบัติด้านความคงทนต่อการขัดถู และความทนทานในการใช้งานในระดับดี ทนต่อแสงแดดได้ดีพอใช้ ลุกไหม้ง่าย ไม่ต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษ ยกเว้นผ้าที่ได้รับการย้อม ( คุณสมบัติของสีย้อมบางชนิดอาจไม่คงทนมีวิธีดูแลรักษายุ่งยากกว่าผ้าไม่ย้อมสี) มีราคาถูก สกปรกง่าย

ใยแก้ว มีคุณสมบัติด้านความต้านทานแสงแดด ความสามารถต้านทานไฟ และความทนทานในการใช้งาน ในระดับดีมาก แต่ไม่ทนต่อการขัดถู ซักทำความสะอาดได้ แต่ห้ามรีด

ใยแฟลกซ์ คุณสมบัติด้านความคงทนต่อการขัดถู และความทนทานในการใช้งานในระดับดี ทนต่อแสงแดดได้ดีพอใช้ ลุกไหม้ง่าย คุณสมบัติคล้ายฝ้าย ยับง่ายต้องรีดทุกครั้งหลังการซัก มีราคาแพง

ใยโมด์อะคริลิค คุณสมบัติด้านการต้านไฟดีมาก คุณสมบัติการต้านทานต่อแสงแดด ทนต่อการขัดถู ความทนทานในการใช้งาน ในระดับดี ไม่ทนความร้อนสูง ทำความสะอาดง่าย นิยมใช้เป็นเส้นใยผสม

ใยไนลอน คุณสมบัติด้านการขัดถูดีมาก ความทนทานในการใช้งานในระดับดี ทนต่อแสงแดดพอใช้ หลอมละลายเมื่อเข้าสู่เปลวไฟ ง่ายต่อการดูแลรักษา เส้นใยที่มีความเงามันสูงจะไม่ทนทานในการใช้งาน

ใยพอลิเอสเตอร ์ คุณสมบัติด้านการขัดถู และความทนทานในการใช้งานในระดับดีมาก ทาต่อแสงแดดไดดี หลอมละลายเมื่อเข้าสู่เปลวไฟ เป็นเส้นใยที่นิยมใช้มากที่สุดกับผ้าม่านแบบ Glass curtains

ใยเรยอน มีคุณสมบัติการต้านทานต่อแสงแดด การขัดถู และความทนทานในการใช้งานในระดับพอใช้ ลุกไหม้เมื่อเข้าสู่เปลวไฟ หดตัวง่ายเมื่อซักยกเว้นเส้นใยที่ผ่านการตกแต่งด้วยเรซิน มีราคาถูก ใช้ทำเส้นใยผสม
เส้นใยเรยอนชนิด Hiwet modulus มีคุณสมบัติคล้ายฝ้าย

ใยแซแรน มีคุณสมบัติการต้านทานต่อแสงแดด การขัดถู ความทนทานในการใช้งาน และความสามารถในการต้านไฟได้ดีมาก ไวต่อความร้อนสูง

ใยไหม มีคุณสมบัติการขัดถู และความทนทานในการใช้งานในระดับพอใช้ คุณสมบัติการต้านทานต่อแสงแดดไม่ดี ความสามารถในการต้านไฟดี ทำความสะอาดโดยการซักแห้ง มีราคาแพง มีความสวยงามมากเมื่อนำมาใช้ตกแต่ง
ใยขนสัตว์ มีคุณสมบัติการต้านทานต่อแสงแดดไม่ดี คุณสมบัติด้าน การขัดถู ความทนทานในการใช้งาน และความสามารถในการต้านไฟในระดับดี ทำความสะอาดโดยการซักแห้ง มีราคาแพง มีความสวยงามมากเมื่อนำมาใช้ตกแต่ง

ผ้าที่ใช้ทำผ้าม่าน
ผ้าที่ใช้ทำผ้าม่านมีทั้งผ้าเนื้อบาง และผ้าเนื้อปานกลางถึงเนื้อหนา ซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างกันดังต่อไปนี้

  ผ้าเนื้อบาง นิยมใช้ผ้าต่อไปนี้
- Batiste เป็นผ้าทอลายขัดสมดุล ผลิตจากใยชนิดใดก็ได้มักใช้กับใยสั้น
- Casement Cloth เป็นผ้าทอลายขัดที่มีเนื้อหนากว่า ผ้า Batiste มักทำจากใยชนิดใดก็ได้ผลิตจากด้ายพิเศษ
- Dimity เป็นผ้าเนื้อบางกระด้างใช้ด้ายคอร์ดในแนวด้ายยืนหรือด้ายควบ มักผลิตจากเส้นใยฝ้าย บางครั้งตกแต่งด้วยการพิมพ์ลาย
- Dotted Swiss ผ้าทอลายจุดบนพื้นผ้าทอลายขัด ส่วนที่เป็นลายจุดอาจใช้เส้นด้ายพิเศษ หรือพิมพ์ขน
- Gauze, Treatrical ผ้าลินินทอลายขัดเนื้อห่าง ทิ้งตัวสวยงาม และต้องรีดขณะยังชื้น
- Marquisette ผ้าทอเลโน เป็นผ้าเนื้อโปร่งทอเลโน ใช้สำหรับผ้าม่านแบบ Glass curtains panel และ ruffled cottage curtains
- Ninon ผ้าทอลายขัดสมดุล ผลิตโดยใช้เส้นใยยาวที่นิยมใช้มาก ได้แก่ พอลิเอสเตอร์ แอซิเตด
- Organdy ผ้าทอลายขัดสมดุลเนื้อแข็งมักมีการอัดจีบถาวร
- Scrim ผ้าทอลายขัดนิยมใช้ด้ายเกลียวสูงหรือด้ายควบ
- Tambour เป็นผ้าปัก batisre หรือ organdy ให้เกิดลวดลายสวยงาม
- Tricot เป็นผ้าถักในแนวด้ายยืนนิยมใช้ด้ายใยยาว ดูแลรักษาง่าย
- Voile ผ้าทอลายขัดสมดุลเนื้อแน่นกว่า ผ้า Scrim ทดจากด้ายเกลียวสูง ผิวสัมผัสกระด้าง ผลิตจากด้ายฝ้าย หรือ ฝ้ายผสมพอลิเอสเตอร์
- Lace เป็นผ้าลูกไม้โปร่งประกอบด้วยด้ายต่อคล้องกันเป็นลวดลายต่าง อาจผลิตด้วยวิธีการถัก ผูก โยง สาน ก็ได้ ผลิตจากเส้นใยฝ้าย หรือ พอลิเอสเตอร์ นิยมใช้ร่วมกับผ้าม่านตกแต่ง

ผ้าเนื้อปานกลางและเนื้อหนา นิยมใช้ผ้าต่อไปนี้
- Antique Satin ผ้าทอต่วนด้ายยืน ผลิตจากเส้นใยแอซิเตด หรือแอซิเตดผสมเรยอน เป็นผ้าพื้นหรือพิมพ์ลวดลาย ดูมีราคาแพง
- Broadcloth ผ้าทอริบเนื้อละเอียด ทำจากใยชนิดใดก็ได้ นิยมใช้ด้ายใยยาวเป็นด้ายยืน และใช้ด้ายใยสั้นเป็นด้ายพุ่ง
- Bengaline ผ้าทอริบเนื้อหนานิยมใช้ไหมหรือด้ายใยยาวอื่นๆ เป็นด้ายยืน และใช้ด้ายฝ้ายเป็นด้ายพุ่ง
- Brocade ผ้าทอยกดอกโดยใช้โครงสร้างต่วนด้ายยืนบนลายขัด ลายสอง หรือลายต่วน เป็นผ้าทอยกดอกแบบแจ็คการ์ด มักใช้เส้นใยยาว ดูสวยงามและราคาแพงใช้ตกแต่งห้องอย่างเป็นทางการ
- Chintz ผ้าฝ้ายทอลายขัด หรือต่วน มักมีการพิมพ์ลาย
- Crash ผ้าทอโดยใช้ด้ายพิเศษ ( Slub yarn) นิยมใช้ด้ายฝ้าย และลินิน
- Cretonne ผ้าฝ้ายเนื้อหยาบ ทอลายขัด มักมีลูกฟูกเป็นที่น่าสนใจสำหรับผู้ตกแต่งบ้านเพราะเนื้อผ้ามีลักษณะเฉพาะตัว
- Damask เป็นผ้าทอยกดอก แบบแจ็คการ์ดมีโครงสร้างทอต่วนด้ายพุ่งสลับกับต่วนด้ายยืน
-Denim ผ้าทอลายสอง 2/1 หรือ 3/1 ใช้ตกแต่งห้องอย่างไม่เป็นทางการ
- Gingham ทอจากด้ายสี ทอลายขัดสมดุลย์หรือทอริบ มักมีลายทาง
- Homespun ผ้าเนื้อหยาบหนา ทอลายขัดใช้ด้ายขนสัตว์ที่ไม่ผ่านการย้อม และผลิตด้วยมือ ถ้าผลิตจากเส้นด้ายที่ผ่านการย้อมทำให้มีความสวยงามมากขึ้น
- Moire ผ้าทอลายริบตกแต่งให้เกิดลายน้ำใช้ตกแต่งห้องอย่างเป็นทางการ
- Monk's Cloth ผ้าทอลายขัดแบบสานตระกร้า 4x4 มักทอจากด้ายควบ
- Printed Linen ผ้าทอเนื้อหยาบพิมพ์ลวดลายด้วยมือ เป็นผ้าที่มีความทนทานมาก
- Poplin ผ้าทอริบใช้ด้ายเส้นใหญ่กว่า Broadcloth
- Rep, Repp ผ้าทอริบเนื้อหนา
- Satin ผ้าทอต่วนด้ายยืน 4/1 หรือ 7/1 มักผลิตจากด้ายใยยาว
-Taffeta ผ้าทอลายขัด หรือทอริบ ผลิตจากด้ายใยยาว เนื้อค่อนข้างแข็งใช้กับห้องที่ต้องการตกแต่งแบบเป็นทางการ
-Toile de Juay ผ้าฝ้ายหรือลินินทอลายขัดหรือลายสองพิมพ์ลาย
-Velvet, Velveteen ผ้ากำมะหยี่ใช้กับที่ต้องการตกแต่งอย่างเป็นทางการ

Tags : ผ้าม่าน ผ้าม่านสั่งทำ ออกแบบตัดเย็บผ้าม่าน ร้านขายผ้าม่านย่านพระราม2 ร้านขายผ้าม่านย่านฝั่งธน รับสั่งทำผ้าม่านตามขนาด รับติดตั้งวอลล์เปอร์ ขายวอลล์เปเปอร์ ร้านวอลล์เปอร์ รับซักผ้าม่าน ตัวอย่างลายวอลล์

view