10 ไอเดีย เลือกทำผ้าม่าน
2. เพดานเตี้ย...แต่อยากสูง
สำหรับห้องที่มีเพดานไม่สูง ซ้ำร้ายหน้าต่างยังบานเล็ก ไม่เต็มผนัง แถมบานหน้าต่างยังซอยย่อยเป็นช่องๆ ทำให้ผนังดูเตี้ยลงและไม่สวยงามอีก อย่าเพิ่งปวดสมอง เพราะเราสามารถแก้ไขได้ด้วยการทำกรอบหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน จากนั้นก็ติดผ้าม่านไบล์นแนวตั้งหรือมู่ลี่แนวตั้งที่สามารถปรับองศาได้ แค่นี้ก็ช่วยหลอกตาให้หน้าต่างดูยาวและเพดานดูสูงขึ้นด้วย
3. สองชั้น...สองความรู้สึก
ไอเดียนี้เหมาะสำหรับคนสองอารมณ์ คืออารมณ์หนึ่งฉันอยากได้แสงสว่าง แต่อีกอารมณ์ฉันไม่อยากได้แล้ว แนะนำให้ติดมู่ลี่ไม้หรืออะลูมิเนียมที่ในชั้นในสุดก่อน แล้วปิดทับอีกชั้นด้วยผ้าม่านที่กรองแสงได้ เลือกความโปร่งของผ้าตามปริมาณแสงที่ต้องการ ทั้งนี้เพราะการทำม่านสองชั้นสามารถควบคุมแสงสว่างที่ลอดผ่านเข้ามาภายในห้องได้ดีกว่าชั้นเดียว โดยมู่ลี่แม้มีประโยชน์ช่วยหรี่แสงได้ (สำหรับกรณีที่ต้องการแสงสว่างบ้าง) แต่ไม่ได้กันแสงแดดร้อยเปอร์เซ็นต์ ฉะนั้นเวลาที่ไม่ต้องการให้แสงเข้ามารบกวน เราก็ดึงผ้าม่านมาปิดเสีย แสงแดดก็จะไม่ส่องแยงตาให้รำคาญใจ
4. ทบกันเพื่อความเป็นส่วนตัว
การติดม่านแบบทบไขว้กันไปมาแบบนี้มีข้อดีคือ แสงไม่สามารถลอดเข้ามาตามรอยต่อของผ้าม่านได้ ซึ่งคงถูกใจผู้ที่ชอบความเป็นส่วนตัว หรือผู้ที่ชอบนอนตื่นสาย แต่ไอเดียนี้อาจต้องใช้ผ้าเยอะสักหน่อย เพราะเท่ากับว่ามีผ้าถึงสองชั้น ม่านแบบนี้ไม่มีรอยจีบ ดูเรียบๆแต่ก็เก๋ ถ้าใช้ผ้าสีสดๆจะดูสวยแปลกตาดี หรือหากเลือกใช้ผ้าสีเข้มและหนาติดในห้องโฮมเธียเตอร์ จะช่วยกันแสงได้ถึงสองชั้น เป็นการช่วยลดแสงสะท้อนได้อีกทาง
5. ม่านกางได้คล้ายหน้าต่าง
ม่านแบบนี้เปิดแบบกางออกได้เหมือนหน้าต่าง ไม่มีผ้ามาเกะกะตรงกรอบบานเหมือนผ้าม่านแบบอื่นๆ พอเปิดกางไปติดผนังแล้วก็กลายเป็นส่วนตกแต่งผนังได้อีก หน้าต่างแบบนี้ถ้าอยากให้ดูเด่น ผนังด้านข้างควรเป็นผนังเรียบหรือทาสีสด ไม่เหมาะกับผนังติดวอลล์เปเปอร์ที่มีลวดลาย เพราะรูปทรงของม่านจะไปปนกับลายบนผนังจนดูรกตา
6. ระย้าไม่ต้องหรู
ม่านบอลลูนหรือม่านระย้าแบบที่ใช้ในโรงละคร เรามักเห็นบ่อยในบ้านสไตล์หลุยส์ที่ใช้ผ้ากำมะหยี่หนาๆทึบๆ แม้จะดูสวยหรูแต่ก็เป็นที่เก็บฝุ่นชั้นดี ลองเปลี่ยนมาใช้ผ้าโปร่งที่ดูบางเบาหรือใช้ผ้าลายดอกไม้สีอ่อนก็จะดูหรูน้อยลงหน่อย ซึ่งเข้ากับบ้านสไตล์คอนเทมโพรารีได้เป็นอย่างดี ม่านแบบนี้เหมาะกับหน้าต่างที่มีขนาดใหญ่หรือมีหลายบานติดกัน และห้องที่ใช้ควรมีเพดานสูง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำเป็นม่านผืนใหญ่เหมือนเวทีละครด้วยนะ แบ่งเป็นส่วนๆเพื่อการปรับแสงเข้าเฉพาะบริเวณก็ได้
7. ม่านติดตู้
มุมหน้าต่างที่อยู่ติดกับตู้สูงหรือตู้หนังสือปรับเป็นมุมอ่านหนังสือเล็กๆริมหน้าต่างได้ค่ะ เลือกใช้ม่านโรมันเชดพับเก็บอยู่ด้านบนของหน้าต่าง ซึ่งเราทำเป็นกล่องซ่อนราวม่านให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ได้ เช่น ทำเป็นชั้นวางของเสียเลย ม่านแบบนี้เมื่อปิดลงมาจะดูเรียบเป็นแผ่น และไม่กินที่ด้านข้างหน้าต่าง
8. ม่านจัดฉาก
บ้านใครที่วางแอร์แบบตั้งพื้นติดกับหน้าต่าง สามารถอำพรางแอร์ได้อย่างแนบเนียนด้วยการทำฉากกั้นให้กลมกลืนไปกับผ้าม่านด้านหลัง โดยเลือกใช้สี ลาย และวัสดุเดียวกัน หรือทำให้มุมนี้กลายเป็นจุดเด่นของห้องเสียเลย ด้วยการใช้ผ้าม่านลายกราฟิกสวยๆต่อลายกับฉากกั้นให้ต่อเนื่องกัน ดูแปลกตาแต่ก็เข้ากันได้เป็นดี
9. ม่านเหนือหัวเตียง
ห้องที่มีพื้นที่จำกัดและต้องจำใจหันหัวเตียงไปชนด้านที่มีหน้าต่าง แก้ปัญหาแสงส่องแยงตาและฝุ่นผงลงหน้าได้ด้วยการติดผ้าม่านแบบรางเลื่อนไว้กับขอบหน้าต่าง นอกจากช่วยบังแสงจากภายนอกแล้ว ยังเป็นภาพศิลปะตกแต่งหัวเตียงไปในตัวด้วย แต่ถ้ากลัวแสงแดดจะรบกวน อาจติดผ้าม่านสองชั้นก็ได้ ใช้ผ้าม่านไบล์นในชั้นแรก ส่วนด้านในเป็นบานเลื่อนผ้าหนาๆทับอีกชั้น เพียงเท่านี้ไม่ว่าแดดยามไหนก็ไม่สามารถเข้ามาได้
10. ม่านเหนือหัวเตียง
ไอเดียนี้เหมือนข้อ 9. แต่ทำเป็นแผ่นไม้กรุผ้าหรือวอลล์เปเปอร์แทน เลือกลายสวยๆจะทำหน้าที่เหมือนภาพเขียนประดับหัวเตียง ดูไม่ออกว่ามีหน้าต่างซ่อนอยู่หลังบานเลื่อนนั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.baanlaesuan.com